เพื่อสุขภาพ เพื่อความงาม โอกาสในการสร้างรายได้ กับผลิตภัณฑ์คุณภาพของโตมุ: ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

ไฮ คิว-โปร

คุณสมบัติและประโยชน์ของไฮคิวโปร

ดีท็อกซ์ คือ การล้างและขจัดกากใยอาหารที่เป็นสารพิษ ที่ตกค้างอยู่ตามรอยหยัก หลุม ของลำไส้ใหญ

ชึ่งเป็นของเสียที่เป็นพิษ อาจเป็นสาเหตุของ มะเร็งลำไส้ใหญ่ ถ้าคุณมีลักษณะอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ควรทำ ดีท็อกซ์ เช่น ลมหายใจมีกลิ่น มึนงง ปวดเมื่อยร่างกาย หิวบ่อย อึดอัด แน่นท้อง อ่อนเพลีย ไม่ขับถ่าย โรค อื่น ๆ

ประโยชน์ของการทำ ดีท็อกซ์ ลำไส้ เพื่อทำความสะอาด และขจัดสิ่งสกปรกตกค้าง สารพิษ ที่เป็นของเสียที่สะสมอยู่ในลำไส้ให้หมดไป ของเสียเหล่านี้มักจะถูกขับถ่ายออกมาตามธรรมชาติไม่หมด

ถ้าเราไม่ใส่ใจดูแลลำไส้ของเราเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก็อาจจะส่งผลร้ายต่อสุขภาพ จนทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ตามมา ดังนั้น การทำ ดีท็อกซ์ลำไส้ จึงเป็นจุดเริ่มต้น ของการดูแลสุขภาพของตนเอง และคนในครอบครัว ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รักสุขภาพของตนเอง เราขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร"ไฮคิวโปร" ซึ่งมีใยอาหาร (Fiber) ชึ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในระบบการขับถ่ายของเสียหรืออุจจาระ ใยอาหาร

จะทำหน้าที่กวาด หรือขจัดของเสีย หรือสารเคมีตกค้างสะสมในลำไส้ ให้หมดไป หรือลดน้อยลงไป การดูดซึมสารทำได้ดีขึ้น จึงทำให้สุขภาพดีขึ้น โอกาสเสี่ยง ที่จะเกิดโรคร้ายที่จะตามมาก็จะลดน้อยลงไปด้วยเช่นกัน

"ไฮคิวโปร" เป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ได้รับการออกแบบมาให้ใช้ด้วยวิธีการ ชงดื่ม ซึ่งจะเห็นผล หลังจากดื่ม

8 - 12 ชั่วโมง จนทำให้คุณ รู้สึกพอใจอย่างยิ่ง และที่สำคัญสะดวก และ ปลอดภัย !!!!!

ไฮคิวโปร ประกอบด้วย

เดกซ์โทรส (dextrose) เป็นผลึกน้ำตาลกลูโคส (glucose) ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกเดี่ยว (monosaccharide)ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที

โอลิโกฟรุคโตส ( Oligo Fructose ) ช่วยเพิ่มเชื้อจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสและนิพิคแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่

ช่วยลดอาการท้องผูก ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

ใยอาหารจากแอปเปิ้ล ช่วยทำความสะอาดลำไส้ได้เป็นอย่างดี

ใยอาหารจากผัก ใยอาหารช่วยในการขับถ่าย ป้องกันปัญหาของโรคภัยต่างๆ เช่น โรคท้องผูก,โรคริดสีดวงทวาร และโรคของถุงน้ำดี เป็นต้น

สตอเบอรี่ เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซี และวิตามินเอ สูงมาก และสารทั้งสองชนิดนี้ ก็เป็นสาระสำคัญที่สามารถด้านอนุมูลอิสระ

สารสกัดจากส้มแขก มีสารสกัดสำคัญที่ชื่อว่า กรดไฮดรอกซีซิติกช่วยยับยั้งกระบวนการเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน และยังช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย

ข้าวโอ๊ต ( Oat ) เป็นเส้นใย Fiber รำข้าวโอ๊ต จะให้เส้นใยอาหาร เจลของไฟเบอร์จะเกาะติดกับสารอาหาร โดยเฉพาะไขมัน ทำให้ไขมันและ สารอาหารอื่นๆ ไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และจะเอาอาหารขับออกทางอุจจาระ จึงทำให้ลดไขมันคลอเรสเตอรอลในเลือดได้ ป้องกันและรักษาปัญหาท้องผูกได้

เอ็นไซม์จากมะละกอ ( Papaya Fruit Enzyme) ช่วยย่อยโปรตีน จากไข่ นม เนื้อ ถั่ว และอาหารจำพวกโปรตีน
ทั้งหลาย

กาแฟ แม็กก่า

มีส่วนประกอบสำคัญดังนี้

Pure Coffee Bean
Maca Extract Powder
Tongkat Ali
Ginseng
Cynomorium Songaricum
Non-dairy creamer and sugar

สรรพคุณโดยรวม

ช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศ

ช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น

บำรุงร่างกาย

บำรุงสุขภาพกายและใจ

ลดอาการปวดเมื่อยต่างๆตามร่างกาย

ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น บรรเทาความเครียด

บรรเทาอาการความดันโลหิตสูง

ช่วยบำรุงหัวใจ

ลดคลอเลสเตอรอลในเลือด

ช่วยบรรเทาอาการในโรคเบาหวาน

ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไตและระบบขับถ่าย

คุณประโยชน์ของสมุนไพร Maca Extract Powder
ต้น Maca เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่ามีสรรพคุณในการช่วยส่งเสริมสมรรถภาพและความต้องการทางเพศของมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพทั้งกายและใจ ช่วยคลายความอ่อนล้าและเครียด ช่วยโปรโมตการสร้างฮอร์โมนเพศของทั้งชายและหญิง หรือในผู้หญิงในวัยทองนั้น สมุนไพร Maca จะไปช่วยควบคุมปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายให้เหมาะสม ทำให้อารมณ์คงที่ มีสุขภาพกายและใจที่ดี

คุณสมบัติและประโยชน์ชากัมปุง

ชากัมปุงผสมสมุนไพรไทยลูกใต้ใบ…สมุนไพรแก้ไข้ แก้อักเสบ แก้ปวดเมื่อย ลูกใต้ใบเป็นสมุนไพรที่พระธุดงค์ตากแห้งพกติดกาย ชงเป็นชายามเดินธุดงค์เพื่อใช้แก้ไข้ที่เกิดจากสาเหตุต่างๆ อาทิ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้จากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ไข้จากอ่อนเพลีย ไข้จับสั่น รวมทั้งแก้ท้องเสียได้ดีนัก ชาวบ้านในหลายพื้นที่นิยมตากลูกใต้ใบให้แห้งเก็บใส่โหลไว้ชงเป็นชากินเพื่อ แก้ไข้ แก้ปวดข้อ แก้อักเสบ แก้ปวด มีรายงานการวิจัยพบว่าลูกใต้ใบมีฤทธิ์ในการแก้ไข้ แก้อักเสบได้ สอดคล้องกับการใช้ตามภูมิปัญญาชาวบ้าน

ลูกใต้ใบ…สมุนไพรบำรุงตับ ลดอาการตับอักเสบ สร้างความสมดุลของไขมันในตับ หมอยาคนจีนเชื่อว่าถ้ากินลูกใต้ใบติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์จะช่วยกำจัดพิษ ออกจากตับ มีผลทำให้สายตาดี บำรุงตับ รักษาอาการดีซ่าน ซึ่งก็คล้ายๆ กับหมอยาพื้นบ้านไทย และหมออายุรเวทอินเดียที่มีความเชื่อว่า ลูกใต้ใบเกิดมาเพื่อตับ ใช้ต้มกินเป็นยาแก้ดีซ่าน แก้ตับอักเสบตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งมีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า สารสกัดจากลูกใต้ใบมีฤทธิ์ป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ เช่น เหล้า รักษาอาการอักเสบของตับทั้งประเภทเฉียบพลันและเรื้อรัง ลูกใต้ใบยังช่วยปรับไขมันในตับให้เป็นปกติ ลูกใต้ใบยังเหมาะที่จะใช้ทำเป็นชาสมุนไพรให้กับคนไข้ที่เป็นมะเร็งตับ เพราะมีรายงานการศึกษาวิจัยพบว่า น้ำต้มของลูกใต้ใบทำให้หนูที่เป็นมะเร็งตับมีอายุยืนยาวขึ้น ด้วยกลไกที่ทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตช้าลงแต่ไม่ได้ฆ่าเซลล์มะเร็งโดยตรง

ลูกใต้ใบ…สมุนไพรของผู้ป่วยเบาหวาน ลูกใต้ใบ เป็นสมุนไพรยอดนิยมของผู้ป่วยเบาหวาน หมอยาและชาวบ้านในหลายประเทศ รวมทั้งประเทศไทย เชื่อว่าลูกใต้ใบเป็นสมุนไพรช่วยคุมระดับน้ำตาลในคนเป็นโรคเบาหวานได้ ซึ่งมีการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาพบว่าสารสกัดของลูกใต้ใบมีฤทธิ์ลดระดับ น้ำตาลในเลือดได้

ข้อแนะนำ...สำหรับการใช้ในผู้ป่วยเบาหวาน

หากจะใช้สมุนไพรต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันตามคำสั่งแพทย์และมีการตรวจวัด ระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีรายงานที่แสดงให้เห็นว่าลูกใต้ใบช่วยเสริมฤทธิ์ของยาเบาหวาน

ลูกใต้ใบ…สมุนไพร ขับปัสสาวะ ขับนิ่ว หมอยาทั่วทุกภาคจะใช้ลูกใต้ใบในการเป็นยาขับนิ่ว มีรายงานการศึกษาสมัยใหม่ว่าลูกใต้ใบมีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ ซึ่งมีประโยชน์ในการขับนิ่ว และลดความดัน ฤทธิ์ในการขับนิ่วนั้น มิใช่หมอยาพื้นบ้านไทยเท่านั้นที่รู้จักใช้ ในสเปน เรียกลูกใต้ใบว่า Chanca piedra มีความหมายว่า นักทุบหิน หรือทำให้หินเป็นชิ้นเล็กๆ (Stone breaker or Shatter stone) ในบราซิลเรียกลูกใต้ใบว่า Quebra-pedra หรือ Arranca-pedras ซึ่งมีความหมายในทำนองเดียวกัน หมอยาพื้นบ้านในแถบลุ่มน้ำอเมซอนนิยมใช้ลูกใต้ใบ ต้มกินในการรักษานิ่วทั้งนิ่วในถุงน้ำดีและนิ่วในไต มีรายงานการศึกษาพบว่าลูกใต้ใบมีฤทธิ์ทั้งป้องกันและกำจัดนิ่ว

ลูกใต้ใบ เป็นสมุนไพรที่จัดว่ามีการใช้กับระบบทางเดินปัสสาวะมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยมีการนำไปใช้รักษาอาการมีไข่ขาวในปัสสาวะ อาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ใช้ในการขับปัสสาวะ ลดอาการบวม และขับกรดยูริคออกทางปัสสาวะ ซึ่งช่วยในคนเป็นโรคเก๊าท์

ลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คอนโทรล “นวัตกรรมอาหารเพื่อไมโทคอนเดรีย”

ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ด้านเซลล์ทำให้เราทราบว่าไมโทคอนเดรียนั้นมีความสำคัญมากๆ ต่อการมีชีวิตสั้นหรือยาวของเซลล์มนุษย์ อาหาร 5หมู่ที่เราบริโภคไปนั้นจะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในเซลล์ รวมไปถึงการสร้างเซลล์ใหม่ในอวัยวะต่างๆ ก็มีความต้องการสารอาหารจำนวนมากเช่นกัน การขาดแคลนสารอาหารเข้าสู่ไมโทคอนเดรียต่อเนื่องกันบ่อยครั้ง ส่งผลให้น้ำย่อย (enzyme) นานาชนิดที่จำเป็นต่อกระบวนการสันดาป (metabolism) ซึ่งผลิตขึ้นภายในไมโทคอนเดรียนั้นขาดแคลนเช่นกัน ผลลัพธ์คือ การเกิดภาวะหย่อนประสิทธิภาพของการย่อยและเผาผลาญอาหารตามมา เมื่อเซลล์ในแต่ละอวัยวะซ่อมไม่สมบูรณ์ เซลล์ใหม่ที่เกิดมาก็จะอ่อนแอตามมา หากเราละเลยปล่อยให้เซลล์ต้องเผชิญกับสภาวะดังกล่าวนานวันเข้า ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยเซลล์ก็จะล้มเหลว ความอ่อนแอของร่างกาย รวมทั้งโรคร้ายก็จะเกิดขึ้นง่ายๆ กับร่างกายของเราทันที

ปัญหาการขาดแคลนสารอาหารของไมโทคอนเดรียนั้นจึงน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อายุของเราไม่ยืนยาว ร่างกายไม่แข็งแรงมีการเจ็บป่วยเรื้อรังอยู่สม่ำเสมอ ทุกครั้งเมื่อเรามีอาการเจ็บป่วยขึ้นมา เรามีหน้าที่ต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโรคให้หาย โดยการรักษาด้วยวิทยาการทางการแพทย์อันทันสมัย ณ ปัจจุบัน ขณะเดียวกันไม่ว่าเราจะป่วยด้วยโรคอะไรก็ตามระหว่างที่เราได้รับการรักษาทางการแพทย์อยู่นั้น ร่างกายของเราก็ยังคงมีความต้องการสารอาหารเข้าสู่กระบวนการต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเชลล์ในอวัยวะต่างๆ ของเราอยู่ดี มิเช่นนั้นเราก็จะไม่สามารถฟื้นหรือมีพละกำลังที่จะต่อสู้กับโรคต่างๆ ต่อไปได้ ในภาวะที่เซลล์อ่อนแอหรือเจ็บป่วยอยู่นั้น เรามีความจำเป็นจะต้องให้สารอาหารเพียงพอต่อเซลล์ แต่เราจะเติมอาหารให้พียงพอได้อย่างไร? ขณะที่ร่างกายเรานั้นเจ็บป่วยอยู่

ผลิตภัณฑ์คอนโทรลเป็นนวัตกรรมอาหารที่อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ด้วยสมมุติฐานตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า ในภาวะของการขาดแคลนสารอาหารของไมโทคอนเดรียนั้น จะนำไปสู่การขาดแคลนพลังงานและการด้อยประสิทธิภาพในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอตามมาอย่างไม่รู้จบ สาเหตุเนื่องจากเมื่อไมโทคอนเดรียไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ประสิทธิภาพของการผลิตเอนไซม์ก็จะน้อยลงตามมา เราไม่สามารถจะนำเอาเอนไซม์จากสิ่งมีชีวิตอื่นไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์มาทดแทนการทำงานของเอนไซม์นานาชนิดในร่างกายของเราได้ ด้วยข้อจำกัดทางกระบวนการทางชีวเคมีว่าด้วยกฎ “แม่กุญแจกับลูกกุญแจ ( lock and key model)” หากเราต้องการจะพลิกฟื้นการทำงานของไมโทคอนเดรียอีกครั้ง เราสามารถกระทำได้โดยส่งสารอาหารผ่านเยื่อเลือกผ่านทั้งนอกและในของไมโทคอนเดรียให้ได้ หากเราสามารถส่งสารอาหารได้ทันกาล และเพียงพอต่อความต้องการของไมโทคอนเดรียที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วนั้น กระบวนการสันดาปสารอาหารและกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ก็จะเกิดขึ้นได้อีกครั้ง

กระบวนการสันดาปอาหารและกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ก็จะเกิดขึ้นได้อีกครั้ง

กระบวนการผลิตอาหารขนาดโมเลกุลเล็ก เราเลือกใข้เทคโนโลยีทางชีวภาพเป็นหลักเพราะใช้เวลาสั้น และได้ปริมาณอาหารโมกุลเล็กปริมาณมาก กว่าวิธีการผลิตแบบนาโนเทคโนโลยีที่ต้องใช้เครื่องจักรกลสมองกลชั้นสูง มีราคาแพง และอาจจะได้ผลิตผลอาหารโมเลกุลเล็กไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอนโทรลนี้ได้ผ่านไปสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติที่สำคัญบางประการ จากสถาบันวิทยาศาสตร์ภายในประเทศซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในระดับสากลทันที การตรวจสอบคุณสมบัติและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์จะช่วยให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจก่อนตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คอนโทรลเพื่อการดูแลสุภาพ ชุดการตรวจสอบมีทั้งระดับห้องปฏิบัติการ และระดับสัตว์ทดลอง ดำเนินการวิจัยโดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ในหัวข้อการวิจัยเรื่อง การศึกษาทางเภสัชวิทยาและความปลอดภัยเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอนโทรล ดี (โครงการวิจัยที่ ภ. 46-06/ย.2,2553)

ผลการวิจัยออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่งคือ

1.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอนโทรลไม่พบการปนเบื้อนของสารสเตียรอยด์

2.มีความปลอดภัยต่อการบริโภคด้วยค่า LD 50 ที่มากกว่า 15,000มิลลิกรัม/กิโลกรัมน้ำหนักตัวของหนูขาว

3.มีผลยับยั้งการอักเสบของอุ้งเท้าหนูได้สูงสุดร้อยละ 47.5 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p 0.01) ที่ชั่วโมงที่ 2

4.มีผลต่อการเพิ่มการแบ่งเซลล์ของภูมิต้านทานชนิด NK-Cell อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p 0.01)

5.มีผลต่อการเผาผลาญคอเลสเตอรอลในหนูขาว อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p 0.05)

ผลจากการทคลองนี้เป็นจึงเป็นข้อมูลที่สำคัญยิ่งเพื่อยืนยันว่า เซลล์ที่เป็นองค์ประกอบในอวัยวะของสิ่งมีชีวิตนั้นมีความต้องการสารอาหารเพื่อใช้ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และใช้เพื่อการสร้างเซลล์ใหม่ตามกลไกของการดำรงชีวิต จากการทดสอบนี้ท่านผู้บริโภคต้องใช้วิจารณญาณก่อนการตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอนโทรล หากท่านผู้ที่สนใจต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อมาที่ ดร.พงษ์ศักดิ์ ละไมพิศ ตามเบอร์โทรศัพท์ 0841631672 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคอนโทรลปรารถนาให้ทุกท่านมีสุภาพแข็งแรงในทุกๆ วัน

คลอโรฟิลด์ จาก อัลฟาฟ่า ALFAFA บิดาแห่งอาหารทั้งมวล

คลอโรฟิลด์ Chlorophyll คืออะไร? คลอโรฟิลด์ คือ สารสีเขียวซึ่งมีอยู่ในพืชและผักทุกชนิด เป็นแหล่งอาหารธรรมชาติที่สำคัญ มีปริมาณสารอาหารอยู่ครบถ้วนซึ่งช่วยในการดูดซึมของกรดอะมิโน และการสังเคราะห์แสง จะพบมากที่สุดในต้นอัลฟาฟ่า (Alfafa) อัลฟาฟ่าเป็นพืชที่ให้คลอโรฟิลด์ในปริมาณที่สูงมากกว่าพืชชนิดอื่นๆ หลายเท่าตัว อาจจะเรียกอัลฟาฟ่าว่าเป็นแหล่งของคลอโรฟิลด์ที่ดีและสมบูรณ์ก็ได้ ในอดีตชาวอาหรับได้ใช้ต้นอัลฟาฟ่าเลี้ยงม้า และพบว่าพืชชนิดนี้ทำให้ม้าแข็งแรง ทำงานหนักได้ สุขภาพดีไม่ค่อยป่วยไข้ และที่สำคัญวิ่งได้เร็วกว่าม้าจากถิ่นอื่น จนชาวอาหรับใต้ได้ลองรับประทานเอง ผลปรากฎว่าร่างการแข็งแรงขึ้น กรัปรี้กระเปร่า ไม่เหนื่อยง่าย ด้วยสรรพคุณที่กล่าวขานกันสืบต่อกันมาในเรื่อง เป็นอาหารบำรุงสุขภาพจนมีการขนานนาม อัลฟาฟ่า ว่า “บิดาแห่งอาหารทั้งมวล” (The Father of All Foods)

อัลฟาฟ่า เป็นพืชตระกูลถั่วมีลักษณะลำต้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร ตารากมีความลึกถึง 30-45 เมตร และขยายกว้างไปถึง 10 เมตร ทำให้สามารถดูดซึมสารอาหารต่างๆได้ โดยเฉพาะเกลือแร่แต่ละชนิดจะมีความหนาแน่นของโมเลกุลแตกต่างกัน อัลฟาฟ่ามีรากลึกจึงสามารถดูดซับเกลือแร่ที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิตได้ครบทุกชนิด ในส่วนของใบอัลฟ่ายังเป็นแหล่งของสารคลอโรฟิลด์ การปลูกต้นอัลฟาฟ่าไม่ต้องใช้ยาหรือสารเคมีฆ่าแมลง ดังนั้นอัลฟาฟ่าจึงไม่มีสารพิษหรือสารเคมีใดๆเจือปน ใช้กระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน วิตามิน แร่ธาตุอื่นๆ เช่น แคลเซียม โปตัสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี เซเลเนียม ซิลิคอน ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญทำให้อาหารถูกดูดซึมได้อย่างดี

คลอโรฟิลด์ มีคุณสมบัติในการทำปฎิกิริยาคีเลชั่น (Chelation) หรือปฎิกิริยาการจับสารตกค้าง สารพิษหรืออนุมูลอิสระในร่างกาย เมื่อคลอโรฟิลด์จับกับสารเหล่านี้แล้ว ก็จะถูกขับออกนอกร่างกายด้วยระบบขับถ่ายที่มีอยู่ อาจจะ โดยทางอุจจาระ ปัสสาวะ หรือทางเหงื่อจึงพบว่าคลอโรฟิลด์ลดความเสี่ยงที่เกิดจากการสะสมของสารพิษหรืออนุมูลอิสระเหล่านี้ได้ ศาสตราจารย์ ฮานส์ ฟิชเชอร์ (Hans Fisher M.D.) ชาวเยอรมันรับรางวัลโนเบลในปี ค.ศ.1930 โดยท่านได้ค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลด์ ในบางเงื่อนไขสามารถแทนที่ศูนย์กลางของคลอโรฟิลด์ด้วยเหล็ก (Fe) จากอาหารธรรมชาติบางประเภท ทำให้อัตรการเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือดแดงดีขึ้น ทั้งนี้แมกนีเซียม (Mg) ที่หลุดออกไปจากศูนย์กลางโมเลกุลของคลอโรฟิลด์ ก็จะทำหน้าที่พาแคลเซียม (Ca) เข้าไปอุดรูพรุนของกระดูกต่างๆ ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้นเมื่อเราได้รับคลอโรฟิลด์เข้าไปในร่างกาย ก็จะเปลี่ยนสารคลอโรฟิลด์ให้เป็นสารตั้งต้นที่ตับแล้วถูกส่งต่อไปในโพรงกระดูกซึ่งมีไขกระดูกอยู่ ก็จะมีการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ในปริมาณที่มากขึ้น (หน้าที่ของไขกระดูก คือ สร้างเม็ดเลือดแดงและปรับระดับความเป็นด่างในกระแสเลือด) ปกติพบว่าเม็ดเลือดแดงในร่างการมนุษย์ จะถูกทำลายตลอดเวลาประมาณ 2 - 2.5 ล้านเซลล์ต่อวัน ด้วยสูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกับโมเลกุลของเม็ดเลือดแดงต่างกันเฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลด์มีแมกนีเซียม (Mg) และเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก (Fe) จึงทำให้สีต่างกัน คือ คลอโรฟิลด์ มีสีเขียวแต่เม็ดเลือดแดง จากจุดนี้เองที่ทำให้คลอโรฟิลด์ถูกเรียกว่า “เลือดของพืช” (Blood of Plant)

สารอาหารที่มีความสำคัญในอัลฟาฟ่า

โปรตีน (Protein) ในอัลฟาฟ่าประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นครบทั้ง 8 ฃนิด กรดอะมิโนจำเป็นหมายถึงร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องใช้ ซึ่งต้องได้รับจากสารอาหารเท่านั้น ในอัลฟาฟ่ามีให้ครบ ได้แก่ ไอโซลิวซีน ทรีโอนิน ลิวซีน ทริปโตแฟน เมทไธโอนิน วาลีน ฟีนิลอะลานีนและไลซีน กรดอะมิโนมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการซ่อมแซมอวัยวะต่างๆ โดยสารจำเป็นที่ใช้ในการแบ่งตัว เพิ่มจำนวนเซลล์ รวมทั้งการสร้างเอนไซม์ (Enzyme) ที่มีบทบาทต่อการทำงานทุกขั้นตอนของร่างกาย

ไกลโคไซด์ (GlyCosudes) สารไกลโคไซด์ที่พบในอัลฟาฟ่าได้แก่ ซาโปนินไกล์โคไซด์มีคุณสมบัติในการลดการดูดซึมโคเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย เป็นการลดคลอเลสเตอรอลทางอ้อม มีผลช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ฟลาโวนอยด์ ไกลโคไซด์ และ ไอโซฟลาโวนอยด์ไกลโคไซด์ มีสูตรโครงสร้างทางเคมี คล้ายฮอร์โมนเพศหญิง จึงมีผลช่วยลดอาการปวดประจำเดือน ลดอาการวัยทอง (วัยหมดประจำเดือน) ป้องกันกระดูกพรุน ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส และมีสรรพคุณ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยชะลอความแก่ และป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง

เบต้าแคโรทีน (Beta – Carotene) เป็นสารตั้งต้นในการสร้างวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และมีผลเป็นสารต้านการเกิดอนุมูลอิสระ (Free radical) จึงลดอัตราการเสื่อมของเซลล์และอัตรเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง (Cancer) ที่อวัยวะต่างๆได้

วิตามินและเกลือแร่ ( Vitamins & Minerals) อัลฟาฟ่ามีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆหลายชนิด ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น มีส่วนส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายป้องกันความเจ็บป่วย วิตามินที่สำคัญได้แก่

· วิตามินเอ บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ต้านอนุมูลอิสระ

· วิตามินบีรวม ช่วยระบบประสาท บำรุงผิวพรรณ เล็บ ผม ดวงตา และตับ

· วิตามินซี ช่วยสร้างเส้นใยคอลลาเจนในผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง เพิ่มภูมิต้านทานโรค
และส่งเสริม การหายของแผล

· วิตามินดี ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง

· วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง ป้องกันโรคหัวใจ

· รักษาสมรรถภาพทางเพศ

· วิตามินเค ช่วยให้เสือดหยุดไหล

· เกลือแร่ต่างๆได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แมกนีเซียม โปแตสเซียม โซเดียม ซัลเฟอร์ ฟลูออไรด์ และสังกะสี เป็นต้น

สารอนุพันธ์คูมาริน (Coumarin Derivatives) สารชนิดนี้มีผลป้องกันการเกาะตัวกันของเกล็ดเลือดทำให้เลือดไหลเวียนดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการไหลเวียนเลือด เช่น โรคสมองเสื่อมจากการขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด แผลที่เกิดจากโรคเบาหวาน อัมพาตบางส่วน เป็นต้น

คลอโรฟิลด์มีคุณสมบัติเด่นที่ใช้ทางการแพทย์และเพื่อเสริมสุขภาพ เช่น

1. คลอโรฟิลด์เป็นสารตั้งต้นในการสร้างเลือดได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็รโรคโลหิตจาง เมื่อ ร่างกายมีเลือดสมบูรณ์ การลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนก็กระทำได้ดี สามารถเพิ่มพลังให้แก่ร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลียทำให้กระปรี้กระเปร่า แหมาะสำหรับนักกีฬา ผู้ป่วยหลังพักฟื้น ตลอดจนนักเรียน นักศึกษาที่ต้องการเพิ่มปริมาณเลือดไปเลี้ยงสมอง เพิ่อเพิ่มความจำ

2. คลอโรฟิลด์ช่วยซ่อมแซมและสร้างเซลล์ใหม่ เช่น ทำให้ผมงอกใหม่ดำขึ้น ลดอาการผมร่วง ชะลอความเสื่อมของเซลล์ และความชราของอวัยวะ

3. คลอโรฟิลด์ช่วยให้แผลหายเร็ว ท้ะงแผลภายในปาก แผลในการเพาะอาหาร หรือแผลภายนอก แผลเปื่อยในผู้ป่วยเบาหวาน

4. คลอโรฟิลด์ช่วยลดกลิ่นปาก และกลิ่นกายได้เป็นอย่างดี

5. คลอโรฟิลด์ช่วยปรับสภาพเลือดให้เป็นด่าง หากร่างกายมีสภาพเป็นกรดจะก่อให้เกิดโรคต่างๆได้ง่าย การปรับให้เลือดมีสภาพเป็นด่างจำทำให้ร่างการแข็งแรง มีสุขภาพดี

6. คลอโรฟิลด์มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีตัวหนึ่ง ช่วยป้องกันการเกิดเซลล์มะเร็ง ป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า

7. คลอโรฟิลด์มีคุณสมบัติในการกำจัดโลหะหนักหรือสารพิษตกค้างในร่างกาย

8. คลอโรฟิลด์ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องผูก ป้องกันการเกิดริดสีดวงทวาร

9. คลอโรฟิลด์ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ชาวยลดอาการภูมิแพ้

10. คลอโรฟิลด์ช่วยบรรเทาอาการปวดศรีษะ เช่น ไมเกรน บรรเทาอาการชา บวม เส้นเลือดขอด

11. คลอโรฟิลด์ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ลดอาการร้อนๆหนาวๆ ใจสั่น วิงเวียน หงุดหงิด ในสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน

Spirulina

หรือที่เรารู้จักกันว่า คือสาหร่ายเกลียวทอง จัดเป็นพืชเซลล์เดียว กลุ่มสาหร่ายแกมน้ำเงิน (Blue-green algae) มีรูปร่างลักษณะเป็นเกลียวขนาดเล็กซึ่งเกิดจากการต่อกันของเซลบ์เดี่ยวหลายๆ เซลล์มาเรียงต่อกัน มนุษย์ได้มีการนำเอกสาหร่าย Spirulina มาเป็นอาหารเป็นเวลานานแล้ว โดยการเก็บเกี่ยวสาหร่าย Spirulina จากแหล่งน้ำธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสจึงได้นำเอาสาหร่าย Spirulinaไปศึกษาค้นคว้า และได้ผลิตเป็นอาหารเสริมในระยะต่อมา เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาถึงประโยชน์ของสาหร่าย Spirulina นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากได้ศึกษาถึงประโยชน์ของสาหร่าย Spirulina ที่มีต่อมนุษย์ พบว่ามีประโยชน์มากมายต่อมนุษย์ในการนำมาเป็นอาหารเพื่อสุขภาพเสริมสร้างความแข็งแรงและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพราะในสาหร่าย Spirulina มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ซึ่งทำให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นสาหร่ายสายพันธ์รวม นำเข้าจากนิวซีแลนด์ เพาะเลี้ยงแบบออแกรนิค(ธรรมชาติ) ระยะเวลาเพาะเลี้ยง 21 วันจะได้ลักษณะเป็นเกลียว สีเขียวแกมน้ำเงิน มีคุณค่าสารอาหารกรดอะมิโน โปรตีน ไขมัน ซึ่งเป็นผงสาหร่ายละเอียด ดูดซึมดีกว่าสาหร่ายทั่วไปถึง 4 เท่า เป็นอาหารสามารถทดแทนมื้ออาหารได้ จะได้รับสารอาหารครบทั้งห้าหมู่ ช่วยบำรุงผิว เสริมร่างกายให้แข็งแรง ช่วยดีท๊อกระบบเลือด เหมาะสำหรับเด็ก สตรีมีครรถ์ และผู้สูงอายุ

คุณค่าทางโภชนาการของสาหร่าย Spirulina สาหร่าย spirulina จะมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก มีโปรตีนชนิดย่อยง่าย ซึ่งเหมาะสมกับผู้สูงอายุ ที่มักมีปัญหาเกี่ยกวับระบบย่อยอาหาร อีกทั้งยังให้โปรตีนสูงถึง 65% เพราะมีส่วนประกอบที่พิเศษ คือ มีอะมิโนโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งเป็นกรดที่ร่างกายไม่สามารถจะมาทำร้ายผิว และยังช่วยป้องกันโรคตาบอกตอนกลางคืน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดวิตามินเอ นอกจากนั้น สาหร่าย Spirulina ยังมีคุณสมบัติในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมะเร็ง และยังอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ ซึ่งช่วยในการล้างพิษให้กับร่างกาย

สาหร่าย spirulina อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ซึ่งปกติจะมีมากในเนื้อสัตว์ และมีปริมาณน้อยในพืชทั่วๆ ไป ผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติจึงมักขาดวิตามินบี 12 ซึ่งทำให้เกิดโรคโลหิตจาง สาหร่าย spirulina จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัติ เพราะวิตามินบี 12 จะช่วยให้ระบบประสาททำงานดีขึ้น ป้องกันเซลล์สมองถูกทำลาย และเสริมสร้างระบบการส่งสัญญาณในสมองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนั้น สาหร่าย spirulina ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ ทั้ง แคลเซียม ซึ่งช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ธาตุเหล็ก สำหรับป้องกันโรคโลหิตจาง แมกนีเซียม จำเป็นสำหรับสร้างกระดูกและฟัน แมงกานีส โปตัสเซียม แร่ธาตุสังกะสี ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับร่างกาย นอกจากนั้น สาหร่ายspirulina ยังประกอบด้วย กรด แกมม่าไลโนเลนิก (GLA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นสำหรับร่างกาย เพราะว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างผนักเซลล์

CONTROL C&D